คุณเคยได้ยินคำว่า “เรียนมหาวิทยาลัยเป็นสิบปีก็ยังไม่จบ” ไหม? หลายคนอาจสงสัยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือแค่เรื่องเล่า วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกถึงหลักเกณฑ์และข้อกำหนดเรื่อง ระยะเวลาเรียนมหาวิทยาลัย ตามระบบอุดมศึกษาไทย ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีไปจนถึงปริญญาเอก ว่าแท้จริงแล้ว มหาลัยเรียนได้นานสุดกี่ปี? เพื่อให้คุณเข้าใจหลักการที่ถูกต้องและวางแผนการเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เกณฑ์ อายุหลักสูตรมหาวิทยาลัย ตามข้อบังคับ
โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยในประเทศไทยจะยึดหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของแต่ละสถาบัน ซึ่งมีแนวคิดหลักคือ “เรียนได้ไม่เกิน 2 เท่าของอายุหลักสูตร” ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในมหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหิดล
- หลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี: เรียนปริญญาตรี ได้นานที่สุดไม่เกิน 8 ปี
- หลักสูตรปริญญาตรี 5 ปี: สามารถเรียนได้ไม่เกิน 10 ปี
- หลักสูตรปริญญาตรี 6 ปีขึ้นไป: (เช่น แพทยศาสตร์, ทันตแพทยศาสตร์) สามารถเรียนได้ไม่เกิน 12 ปี
ระยะเวลาสำหรับระดับบัณฑิตศึกษา
สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ระยะเวลาการศึกษาจะแตกต่างกันไปตามแต่ละหลักสูตร:
- ปริญญาโท: ส่วนใหญ่กำหนดระยะเวลาเรียนสูงสุดไม่เกิน 5 ปี
- ปริญญาเอก: ระยะเวลาจะอยู่ที่ประมาณ 6-8 ปี ขึ้นอยู่กับแผนการศึกษา (แผนที่เน้นวิทยานิพนธ์อย่างเดียวจะใช้เวลาน้อยกว่าแผนที่ต้องเรียนรายวิชาควบคู่ไปด้วย)
การขอผ่อนผันและการหมดสถานภาพนักศึกษา
ในกรณีที่นักศึกษาใกล้จะครบ อายุหลักสูตรมหาวิทยาลัย หลายสถาบันจะมีระบบ “การขอผ่อนผัน” โดยนักศึกษาต้องยื่นคำร้องพร้อมเหตุผลที่สมเหตุสมผล เช่น ปัญหาสุขภาพ หรือเหตุจำเป็นอื่นๆ แต่การอนุมัติจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสถาบันนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม การลากยาวการศึกษาออกไปอาจส่งผลเสียต่อตัวนักศึกษา ทั้งในแง่ของเวลา ค่าใช้จ่าย และโอกาสในการทำงานที่อาจสูญเสียไป หากคุณมีปัญหาในการเรียน ควรปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาหรือฝ่ายวิชาการเพื่อหาทางแก้ไขที่เหมาะสม ก่อนจะ “หมดสถานภาพนักศึกษา” โดยไม่ทันตั้งตัว